วันอังคารที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2561

เสริมสร้างความสัมพันธ์ภายในครอบครัวด้วยงานบ้าน

รู้หรือไม่คะว่าการทำงานบ้านนั้นมีประโยชน์มากกว่าที่ทุกคนคิดนะคะ การทำงานบ้านนั้นช่วยให้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกายทั้งมัดใหญ่และมัดเล็กได้เคลื่อนไหว ช่วยรักษาน้ำหนักและรูปร่างของเรา นอกจากนั้นยังช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ภายในครอบครัวได้อีกด้วยนะคะ เพราะงานบ้านนี้สามารถทำได้ทั้งคุณพ่อ คุณแม่ และเด็กๆ ค่ะ และช่วยให้มีพัฒนาการด้านอารมณ์อีกด้วย

แต่ทั้งนี้เด็กในแต่ละวัยก็สามารถช่วยงานบ้านได้ในระดับที่ต่างๆ กันนะคะ วันนี้นอกจากจะมาบอกว่าเด็กแต่ละวัยเหมาะกับการช่วยคุณพ่อ คุณแม่แบบไหนแล้ว ยังจะมาแนะนำอุปกรณ์ทำความสะอาดที่ปลอดภัยกับเด็กๆ อีกด้วยค่ะ

วัยไหนทำได้แค่ไหน

วัยเตาะแตะ อายุ 2-3 ขวบ เก็บข้าวของของตัวเอง เช่นของเล่น หรือ เสื้อผ้าที่ใส่แล้ว ในวัยนี้แม้จะทำได้บ้างแต่ก็ต้องการการช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ อาจให้เล่นเป็นเกมเก็บของเพื่อเพิ่มความสนุกและดึงดูดความสนใจในการทำงาน
วัยก่อนอนุบาล 3-4 ขวบ เริ่มช่วยถือของเล็กๆ น้อยๆ หรือเริ่มทำงานบ้านตามหน้าที่ที่กำหนดไว้ประจำ 1 อย่าง เช่น จับคู่ช้อนส้อมของสมาชิกในบ้าน เรียงผ้าปูโต๊ะก่อนทานอาหารเป็นต้น
วัยอนุบาล 5-6 ขวบ ตอนนี้เด็กๆ เริ่มโตขึ้นมาอีกหน่อยแล้ว เริ่มให้เด็กๆ รู้จักรับผิดชอบต่อชีวิตประจำวันของตัวเองมากขึ้น ทั้งใส่เสื้อผ้าเอง หรือจัดเตรียมข้าวของของตัวเองเมื่อต้องออกไปข้างนอกกับพ่อและแม่ ในวัยนี้อาจจะเริ่มให้ช่วยคุณพ่อรดน้ำต้นไม้ หรือ ช่วยคุณแม่ปัดฝุ่น-เช็ดโต๊ะ
วัยประถม วัยนี้โตพอที่จะช่วยคุณพ่อคุณแม่ได้มากขึ้นแล้วและไม่ต้องการคำแนะนำตลอดเวลาอย่างเช่นในวัยอื่นๆ คุณพ่อคุณแม่อาจเป็นเพียงผู้ตรวจงานขั้นตอนสุดท้ายอีกครั้งก็เพียงพอ คุณพ่อคุณแม่อาจมอบหมายงานประจำ 2-3 อย่างให้เพื่อฝึกความรับผิดชอบให้มากขึ้น

ทั้งหมดนี้ไม่ว่าลูกๆ จะอยู่ในวัยไหนก็อย่าลืม "คำชม" เมื่อเด็กๆ ทำงานได้ดีต่อหน้าที่ๆ รับผิดชอบนะคะ แต่หากยังมีข้อผิดพลาดก็ใจเย็นๆ ค่อยบอกกล่าวกันต่อไปค่ะ อีกไม่นานเด็กๆ ก็จะทำได้เองค่ะ

ต่อมาเรามากันที่อุปกรณ์ทำความสะอาดที่จะแนะนำกันบ้างดีกว่านะคะ

โอ๊ตส์ ฟองน้ำอเนกประสงค์
โอ๊ตส์ฟองน้ำอเนกประสงค์ ฟองน้ำทำความสะอาดโดยไม่ต้องใช้น้ำยาเคมี เพียงแค่ใช้ฟองน้ำอเนกประสงค์ น้ำเปล่า และผ้าแห้งเช็ดสะอาดเท่านั้นก็เช็ดล้างทำความสะอาดทุกอย่างได้อย่างง่ายดายและปลอดภัย

ผ้าฟองน้ำเซลลูโลส
อีโคโนช้อยส์ผ้าฟองน้ำเซลลูโลส ผ้าฟองน้ำสำหรับเช็ดโต๊ะอาหาร เช็ดเคาท์เตอร์ครัว ซิงค์ล้างจาน ที่ผลิตจากเซลลูโลสแท้ผสมใยฝ้ายแท้ 100% ใช้เช็ดโต๊ะอาหารได้อย่างหมดจด ไม่มีแบคทีเรีย ไม่ต้องใช้น้ำยาเคมี ซักล้างได้เมื่อสกปรกหรือลวกน้ำร้อนเพื่อความสะอาดหมดจด ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ

ถุงมือยางสังเคราะห์
อีโคโนช้อยส์ถุงมือยางสังเคราะห์ ถุงมือยางแบบกระชับถนัดมือ ไม่มีส่วนผสมของยางธรรมชาติ ไม่ทำให้เป็นภูมิแพ้ลาเท็กซ์ ไม่มีส่วนผสมของแป้งจึงไม่ระคายเคืองทางเดินหายใจ ทนทานต่อสารเคมี กรด ด่างและน้ำมัน มี 3 ขนาดให้เลือก S, M, L

วันจันทร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2561

แพ้ยางธรรมชาติ

 “โรคภูมิแพ้” นับได้ว่าเป็นโรคที่เป็นกันมากในปัจจุบัน ทั้งแพ้อากาศ หอบหืด หรือ แม้กระทั่งส่วนประกอบของอาหารบางชนิดก็สามารถทำให้เกิดอาการแพ้ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นผลไม้ เช่น กล้วย ขนุน ฯลฯ บางครั้งอาการแพ้อาจจะรุนแรงถึงขั้นเป็นอันตรายแก่ชีวิต การแพ้ผลไม้นั้นเชื่อมโยงไปถึงแพ้ยางพาราธรรมชาติ หรือเรียกว่า “ภูมิแพ้ลาเท็กซ์” นพ.ธนวรรธน์ เครือคล้าย อายุรแพทย์เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกันทางคลินิก โรงพยาบาลเวชธานี กล่าวถึงโรคดังกล่าวว่า ภูมิแพ้ลาเท็กซ์เกิดจากการแพ้ “โปรตีนลาเท็กซ์” หรือโปรตีนในน้ำยางธรรมชาติ ซึ่งเมื่อร่างกายสัมผัสกับยางพาราธรรมชาติ ซ้ำๆ บ่อยๆ ทำให้ร่างกายมีโอกาสได้สัมผัสกับโปรตีนในยางธรรมชาติผ่านทางบาดแผล หรือเยื่อบุของร่างกาย ส่งผลให้ร่างกายสร้างภูมิต่อยางธรรมชาติ และเมื่อร่างกายได้สัมผัสกับยางธรรมชาติอีกในภายหลังจะก่อให้เกิดปฏิกิริยาการแพ้ขึ้น เนื่องจากยางพาราเป็นพืช โปรตีนในยางจึงจะไปคล้ายกับพืชผลไม้บางชนิด เช่น กล้วย อโวคาโด กีวี มันฝรั่ง มะเขือเทศ เกาลัด มะละกอ ฯลฯ ทำให้คนที่แพ้ยางธรรมชาติแพ้ผลไม้บางชนิดไปด้วยในภายหลัง
       
       “บางครั้งเราอาจคาดไม่ถึงว่าในชีวิตประจำวันนั้นเราสัมผัสกับยางธรรมชาติมากขนาดไหน ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้าน รองเท้า ถุงมือยาง ถุงยางอนามัย หนังสติ๊ก ลูกโป่ง รวมถึงวัสดุทางการแพทย์ ทั้งนี้ กลุ่มบุคคลบางอาชีพต้องสัมผัสกับยางธรรมชาติมากเป็นพิเศษ เช่น บุคลากรทางการแพทย์ ช่างเสริมสวย ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงในการแพ้ยางธรรมชาติมากกว่ากลุ่มอื่น”
       
       สำหรับอาการแพ้นั้น นพ.ธนวรรธน์กล่าวว่า มีหลายรูปแบบ เช่น การระคายเคือง เป็นผื่นลมพิษซึ่งเกิดขึ้นภายใน 10-15 นาทีหลังจากสัมผัสยางธรรมชาติ ในบางรายมีการสูดดมเอาละอองของยางธรรมชาติเข้าไป อาจทำให้เกิดอาการคล้ายหอบหืด และแพ้อากาศ หากมีอาการแพ้รุนแรงกว่านั้นคือ เกิดภาวะแพ้แบบ อนาไฟแล็กซีส (Anaphylaxis) ซึ่งหมายถึงการแพ้ขั้นรุนแรง เช่น ทางผิวหนัง จะมีผื่นลมพิษหรือผื่นแดงกระจายที่ร่างกาย ตาบวม ปากบวม ระบบทางเดินหายใจอาจมีอาการจาม คัดจมูก น้ำมูกไหล แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก หายใจมีเสียงวี้ด ส่วนในระบบทางเดินอาหาร อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายเหลว ปวดท้อง และในระบบไหลเวียนโลหิต อาจมีอาการความดันตก วูบ มึนศีรษะ หรืออาจรุนแรงมากจนถึงขั้นหมดสติ 
       
       ส่วนจะรู้ได้อย่างไรว่าแพ้ยางธรรมชาติหรือไม่นั้น นพ.ธนวรรธน์กล่าวว่า ผู้ที่สงสัยสามารถมาพบแพทย์เพื่อทำการทดสอบทางผิวหนัง โดยการหยดน้ำยาทดสอบ หลังจากนั้นจะใช้เข็มขนาดเล็กสะกิดบริเวณผิวหลังที่หยดน้ำยาทิ้งไว้ 15-20 นาที แล้วอ่านผล หากมีอาการแพ้ผิวหนังบริเวณที่ทดสอบจะนูนแดงขึ้น หรืออีกวิธีหนึ่งคือการตรวจเลือดหาแอนติบอดีจำเพาะ (Serum specific Ig E) ที่มีปฏิกริยาต่อยางธรรมชาติ
       
       นพ.ธนวรรธน์กล่าวถึงการดูแลรักษาว่า ผู้ป่วยที่แพ้รุนแรงมีอาการหลายระบบ ทุกรายต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยเพื่อหาสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการแพ้ ผู้ป่วยที่มาด้วยอาการแพ้ผลไม้บางชนิด เช่น กล้วย จำเป็นจะต้องนึกถึงการแพ้ยางธรรมชาติด้วย ในขณะผู้ป่วยกลุ่มที่มาด้วยอาการแพ้ยางธรรมชาติก็ต้องเฝ้าระวังการแพ้ข้ามกลุ่มยังผลไม้บางชนิด แพทย์จะแนะนำให้หลีกเลี่ยงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่ทำจากยางพาราธรรมชาติ เช่น หนังยางรัดผม รองเท้าแตะ สายนาฬิกา ถุงยางอนามัย เป็นต้น นอกจากนั้น ในด้านผู้ป่วยที่แพ้ยางธรรมชาติหากมีเหตุเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล จำเป็นต้องแจ้งแก่แพทย์และพยาบาลทุกครั้งถึงอาการแพ้ เพื่อป้องกันการใช้ผลิตภัณฑ์และวัสดุในการรักษาที่ทำมาจากยางธรรมชาติ เนื่องจากในโรงพยาบาลมักจะเต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์ที่มียางเป็นส่วนประกอบ เช่น ถุงมือตรวจโรค จุกปิดขวดยาฉีด สายสวนปัสสาวะ เป็นต้น 

หากคุณเป็นคนนึงที่มีอาการภูมิแพ้ลาเท็กซ์ดังกล่าวและจำเป็นต้องใส่ถุงมือเพื่อการทำงาน ขอแนะนำ "ถุงมือยางสังเคราะห์ รุ่นใช้แล้วทิ้ง" ของ "อีโคโนช้อยส์" ถุงมือยางที่ไม่มีส่วนผสมของยางธรรมชาติ ป้องกันคุณจากอาการแพ้ยาง ไม่มีแป้ง ทำให้ไม่ระคายเคืองทางเดินหายใจ ไม่ปนเปื้อนเมื่อสัมผัสอาหาร ทนทานต่อสารเคมี กรด ด่าง น้ำมันได้ดี ปกป้องผิว, มือ และเล็บของคุณด้วยอีโคโนช้อยส์สิคะ

ขอบคุณบทความดีๆ จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์ ที่ให้ความรู้เรื่องภูมิแพ้ลาเท็กซ์กับเราค่ะ


#ถุงมือยางสังเคราะห์ #ถุงมือยางสีฟ้า #ถุงมือยางอีโคโนช้อยส์ #ถุงมือทำอาหาร #ถุงมือทำขนม #ถุงมือดูแลผู้ป่วย #ถุงมือดูแลสัตว์เลี้ยง #ถุงมือสีฟ้า #ถุงมือทนน้ำมัน #ถุงมือไนไตร

วันอังคารที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2561

คุณประโยชน์ของสับปะรด


สับปะรด พืชล้มลุกแสนอร่อยที่มีต้นกำเนิดจากแถบทวีปอเมริกาใต้ มีผลให้ทานได้ตลอดทั้งปีโดยไม่ต้องรอฤดูกาล ทำให้เรามักจะเจอสับปะรดพันธุ์ต่างๆ ขายอยู่ทั่วไปในประเทศไทย  วันนี้จะมาบอกประโยชน์ของสับปะรดให้ทุกคนได้รู้กันค่ะ


สับปะรดมีวิตามินซี เบตาแคโรทีน และแมงกานีส ซึ่งทำให้ร่างกายแข็งแรง บำรุงโครงสร้างกระดูก ระบบประสาทต่างๆ และช่วยต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งทำให้ผิวพรรณสดใส ลดริ้วรอยก่อนวัย หากทานในช่วงเป็นหวัดก็จะช่วยบรรเทาอาการหวัด ขับเสมหะในลำคอ นอกจากนั้นยังช่วยรักษาแผลภายในช่องปากอีกด้วย

นอกจากนี้สับปะรดยังช่วยย่อยอาหารจำพวกโปรตีนได้ดี เหมาะที่จะทานตบท้ายหลังกินบุฟเฟต์ เพราะในสับปะรดมีเอนไซม์ธรรมชาติ ที่ชื่อว่า บรอมีเลน (Bromelain) ที่ย่อยได้ทั้งกรดและด่าง ทำให้อาการจุกเสียดแน่นท้องหายไป นอกจากนี้ บรอมีเลนยังมีสรรพคุณคล้ายยาแอสไพรินที่ช่วยยับยั้งการจับตัวของเกล็ดเลือด จึงช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดตีบ อัมพฤกษ์ อัมพาต ไม่เพียงเท่านี้บรอมีเลนยังมีฤทธิ์เป็นยาฆ่าเชื้ออ่อนๆ ทำลายแบคทีเรียที่ไม่มีประโยชน์ ช่วยสมานแผล และลดการอักเสบของกระเพาะอาหารและลำไส้

สำหรับผู้ชายการทานสับปะรดจะช่วยเป็นยาบำรุงกำลังจากธรรมชาติได้เป็นอย่างดี เพราะมี ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน หรือฮอร์โมนเพศชาย ในส่วนของผู้หญิงการทานสับปะรดนั้นช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือน และขับประจำเดือนได้เป็นอย่างดี

นอกจากเนื้อสับปะรดแล้วใบสับปะรดที่มีกากใยอยู่มากก็สามารถนำมาทำเป็น "ผ้าใยสับปะรด กระดาษ หรือ เอามาทำเป็นเชือกสับปะรดหรือเอามาทำผ้าเรียกว่า "ผ้าบารอง" ก็มี ส่วนเปลือกสับปะรดโดยเฉพาะบริเวณตาของสับปะรดนั้นอุดมไปด้วยสารอาหาร จึงนิยมนำไปทำเป็นอาหารของวัว หรือหมักเป็นปุ๋ยชีวภาพ

ไม่เพียงแต่ส่วนต่างๆ ของสับปะรดที่มีประโยชน์ แม้แต่กลิ่นสับปะรดก็มีประโยชน์เช่นกัน กลิ่นที่หวานอมเปรี้ยวของสับปะรดนั้นช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น บรรเทาอาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลียจากการทำงานมาตลอดทั้งวัน

วันอังคารที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2560

เลือกใช้ผ้าให้เหมาะกับพื้นที่ใช้งานยังไง? ตอนที่2

ตามอ่าน ตอนที่ 1 ได้ที่ คลิกที่นี่


เลือกใช้ผ้าให้เหมาะกับพื้นที่ใช้งานยังไงครั้งนี้ถึงคราว อีโคโนช้อยส์ ผ้าไมโครไฟเบอร์ กันบ้างค่ะ

ผ้าไมโครไฟเบอร์ของอีโคโนช้อยส์ จะเหมาะกับการเช็ดอ่างล้างหน้ามากกว่าอ่างล้างจานอย่างผ้าฟองน้ำเซลลูโลสที่พูดถึงไปในคราวที่แล้ว นั่นเป็นเพราะผ้าไมโครไฟเบอร์นอกจากจะเช็ดอ่างได้แห้งแล้วยังให้ความเงางามอีกด้วย

เมื่อใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดอ่างล้างมือจะทำให้อ่างล้างมือแห้ง เงางาม และดูสะอาดอยู่เสมอ โดยวิธีใช้ก็ง่ายนิดเดียว เราแค่ต้องมีผ้าไมโครไฟเบอร์เตรียมประจำไว้ที่อ่างล้างมือ 1 ผืน เมื่อล้างมือหรือใช้อ่างล้างมือเสร็จทุกครั้งให้ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดอ่างให้แห้งทันที เพียงเท่านี้ อ่างก็จะสะอาด ไม่ต้องล้างทำความสะอาดบ่อยๆ อีกต่อไป


เหตุที่ผ้าไมโครไฟเบอร์ทำให้แห้งและให้ความเงางามไปพร้อมๆ กันเมื่อใช้งานนั้น เป็นเพราะใยของผ้าไมโครไฟเบอร์ที่สามารถดูดซับน้ำ เก็บคราบสกปรก และคราบมันบนพื้นผิวที่เราเช็ดได้ดี ด้วยคุณสมบัตินี้ผ้าไมโครไฟเบอร์จึงสามารถใช้เช็ดกระจกภายในห้องน้ำ กระจกส่วนต่างๆ ของบ้าน เช็ดแก้วน้ำ จานชาม ช้อนส้อม เครื่องประดับต่างๆ รวมถึงแว่นตา ให้เงางามอยู่เสมอ โดยไม่ต้องใช้น้ำยา และไม่ทำให้เกิดริ้วรอยขีดข่วนอีกด้วย 

นอกจากใช้งานภายในบ้านแล้วอีกหนึ่งอย่างที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้คือการใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ในการขัดสีรถ ตามที่ได้บอกถึงคุณสมบัติของผ้าไมโครไฟเบอร์ข้างต้น ผ้าไมโครไฟเบอร์จึงเหมาะที่จะใช้เช็ดเก็บแว๊กซ์ขัดสีรถ นอกจากนี้ผ้าไมโครไฟเบอร์ของอีโคโนช้อยส์นั้น เป็นการทอแบบพิเศษทำให้ประหยัดแรงในการขัดเคลือบสีแว๊กซ์ ทำให้ไม่เปลืองแรง ผ้าไมโครไฟเบอร์สามารถเก็บแว๊กซ์ขึ้นมาจากพื้นผิวรถได้เป็นอย่างดี



อีโคโนช้อยส์ ผ้าไมโครไฟเบอร์ 1 ผืน ขนาด 40x40 ซม. มีให้เลือก 2 สี คือสีส้มและสีขาว 

.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.
สั่งซื้อง่ายๆ 3 ช่องทาง ตามสะดวกค่ะ
✿ LineID: econothailand หรือ http://line.me/ti/p/~econothailand
.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.

เลือกใช้ผ้าให้เหมาะกับพื้นที่ใช้งานยังไง? ตอนที่1


วันนี้จะมาบอกวิธีเลือกผ้าให้เหมาะกับพื้นที่การใช้งานกันค่ะ เดี๋ยวนี้มีสินค้าหลายอย่างผลิตออกมามากมายเพื่อให้เหมะสมกับการใช้งานมากที่สุด เราที่เป็นผู้บริโภคเพียงแค่ต้องเลือกซื้อมาใช้งานให้ถูกกับวัตถุประสงค์เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนั่นเองค่ะ

วันนี้ผ้าที่มาแนะนำมี 2 อย่างคือ "อีโคโนช้อยส์ ผ้าฟองน้ำเซลลูโลส" และ "อีโคโนช้อยส์ ผ้าไมโครไฟเบอร์"

ผ้า 2 อย่างนี้มีวัตถุประสงค์เหมือนกันคือเช็ดแห้งได้ ใช้เช็ดอ่างล้างหน้า อ่างล้างมือได้ทั้งคู่ แต่! ผืนไหนเหมาะกับอะไรมากกว่าเท่านั้นเอง

อีโคโนช้อยส์ ผ้าฟองน้ำเซลลูโลส ผลิตจากเซลลูโลสแท้รวมกับใยฝ้ายเพื่อเพิ่มความทนทานในการใช้งาน เหมาะกับพื้นที่ที่เปียกบ่อยๆ เช่น อ่างล้างจาน โต๊ะทานข้าว เคาท์เตอร์ครัว ทุกครั้งก่อนการใช้งานเพียงแค่จุ่มน้ำแล้วบิดให้หมาด ใช้เช็ดพื้นที่ๆ ต้องการได้เลย เมื่อใช้เสร็จเพียงแค่ล้างน้ำอีกครั้ง บิดให้หมาดแล้วผึ่งไว้กับซิงค์ล้างจาน หรือเคาท์เตอร์ครัวได้เลย ผ้าฟองน้ำเซลลูโลสจะแห้งเองโดยไม่ต้องผึ่งแดด

เนื่องจาก #อีโคโนช้อยส์ #ผ้าฟองน้ำเซลลูโลส ของเราผลิตจากวัสดุธรรมชาติทั้งหมดจึงย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ สามารถใช้งานได้นานจนกว่าผ้าจะเปื่อย


เลือก อีโคโนช้อยส์ ผ้าฟองน้ำเซลลูโลสรุ่นไหนดี? 

ตอบ เลือกตามขนาดพื้นที่ที่เราจะใช้งาน เรามีทั้งหมด 3 รุ่น

✿ รุ่นผืนเล็ก 18x20 ซม. เหมาะสำหรับพื้นที่เล็ก เช่น อ่างล้างจาน
รุ่นผืนใหญ่ 25x30 ซม. เหมาะสำหรับพื้นที่ใหญ่ เช่น เคาท์เตอร์ครัว หรือ ซื้อเพื่อนำไปตัดแบ่งตามขนาดที่ต้องการ
✿ รุ่นอบแห้งพิมพ์ลายช้าง 18x20 ซม. แพ็ค 4 ผืน พิมพ์ลายน่ารักจึงเหมาะสำหรับเช็ดโต๊ะอาหาร

รุ่นอบแห้งเป็นอย่างไร ต่างจากผ้าฟองน้ำเซลลูโลสปกติไหม?

ตอบ คุณสมบัติของผ้าฟองน้ำเซลลูโลสแบบอบแห้งไม่ต่างจากแบบปกติเลยค่ะ เพียงแค่นำผ้าฟองน้ำเซลลูโลสแบบปกติมาเข้าตู้อบ เพื่ออบผ้าฟองน้ำเซลลูโลสให้แห้ง แล้วเข้าสู่กระบวนการพิมพ์ลายต่อไป เพื่อเพิ่มความน่ารักสดใสระหว่างการใช้งาน เมื่อนำรุ่นอบแห้งมาใช้งานเพียงชุบน้ำให้ทั่ว ผ้าก็จะกลับมาฟูนุ่มเหมือนรุ่นปกติค่ะ

สีที่ใช้กับรุ่นอบแห้งเป็นอันตรายต่อร่างกายไหม?

ตอบ ไม่ค่ะ สีที่เราใช้เป็นสีธรรมชาติ ดังนั้นการใช้ผ้าอบแห้งจึงปลอดภัย และสีไม่ตกค่ะ

ผ้าฟองน้ำเซลลูโลสของอีโคโนช้อยส์ต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร?

ตอบ ต่างตรงที่ผ้าของเรานุ่มมือ ไม่ยึดติดพื้นผิวที่เช็ด ทำให้ไม่ต้องออกแรกเยอะเมื่อใช้งาน ใช้งานได้ทนทาน โดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมค่ะ

สนใจสั่งซื้อได้ที่ไหนบ้าง?

ตอบ นอกจากห้างและซุปเปอร์มาเก็ตแล้ว สามารถสั่งซื้อได้ที่นี่ค่ะ คลิกเพื่อไปดูรายละเอียดและสั่งซื้อ




ผ้าฟองน้ำเซลลูโลสรุ่นผืนใหญ่เอาไปตัดใช้งานอะไรได้บ้าง?

ตอบ ผ้าฟองน้ำเซลลูโลส สามารถนำไปตัดเป็นขนาดต่างๆ ได้โดยไม่มีใยหลุดลุ่ย เพื่อนำไปใช้รองใต้ขวดต่างๆ ในห้องน้ำ หรือ รองใต้กระป๋องแป้งที่ก้นกระป๋องมักจะเป็นสนิมและทำให้กระเบื้องห้องน้ำของเราไม่สวยงาม หรือรองใต้แจกัน ใต้ขวดน้ำเย็นหรือแก้วน้ำเย็นที่มักจะมีหยดน้ำเกาะอยู่รอบขวดจนโต๊ะเปียกเป็นวงน้ำ



ดูคลิปรีวิวการทำความสะอาดเตาแก๊สและเคาท์เตอร์ครัวได้ที่ YOUTUBE

ส่วนเรื่องของ "อีโคโนช้อยส์ ผ้าไมโครไฟเบอร์" คงต้องยกยอดไปกระทู้ถัดไปนะคะ คลิกอ่านตอนที่ 2


#อีโคโนช้อยส์ #ผ้าฟองน้ำเซลลูโลส #เซลลูโลสแท้ #ทำความสะอาด


วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ซิลเวอร์นาโนเทคโนโลยีกับการใช้ในชีวิตประจำวัน

จากที่คราวที่แล้วได้แนะนำให้รู้จักกับ ซิลเวอร์นาโนเทคโนโลยี กันไปแล้ว อ่านบทความได้ที่นี่
#สเมล์คิลเลอร์ #นาโนซิลเวอร์ #ทำความสะอาด #คาร์ซีท #ซักที่นอน #ซักตุ๊กตา #ซักแห้ง #ยีนส์
คราวนี้เรามาดูกันว่าในชีวิตประจำวันของเรานั้น ซิลเวอร์นาโนเทคโนโลยี จะเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกอะไรได้บ้างดีกว่า ซึ่งผลิตภัณฑ์ทั่วไปที่เราพอจะได้ยินมาบ้างก็เช่น ผลิตภัณฑ์สิ่งทอ ใช้อนุภาคซิลเวอร์นาโนในการขจัดแบคทีเรีย และเคลือบลงบนเส้นใยผ้า ซึ่งจะช่วยลดกลิ่นอับชื้น กลิ่นเหงื่อ บนเสื้อผ้าได้ หรือ ผลิตภัณฑ์ซักผ้า แฟ๊บผงพสมผงซิลเวอร์นาโน ช่วยให้ซักผ้าตากได้อย่างไม่ต้องง้อแดด เพราะมีซิลเวอร์นาโนช่วยขจัดกลิ่นอับชื่น กลิ่นหมักหมมต่างๆ ไปแล้ว #สเมล์คิลเลอร์ #นาโนซิลเวอร์ #กำจัดกลิ่นเหม็น #กำจัดกลิ่นรองเท้า #กำจัดแบคทีเรีย #ไม่ต้องซัก #สายคล้องกล้อง #ทำความสะอาด
แต่ที่อยากจะแนะนำในวันนี้คือ "สเมล์คิลเลอร์ นาโนซิลเวอร์สเปรย์" ที่ใช้งานง่าย ขวดกระทัดรัดพกพาสะดวก แล้วยังใช้งานได้หลากหลายวิธีอีกด้วย #สเมล์คิลเลอร์ #นาโนซิลเวอร์ #อนุภาคเงิน #ฆ่าเชื้อ

#สเมล์คิลเลอร์ #นาโนซิลเวอร์สเปรย์ #ขจัดกลิ่นเหม็น #ไม่ต้องซัก
#สเมล์คิลเลอร์ #นาโนซิลเวอร์สเปรย์ #กำจัดกลิ่นเหม็น #กำจัดกลิ่นอับ #รองเท้าเหม็น #ซักโซฟา 
#สเมล์คิลเลอร์ #นาโนซิลเวอร์สเปรย์ มีส่วนผสมเพียงน้ำเปล่ากับอนุภาคเงินหรือซิลเวอร์นาโน ดังนั้นจึงมั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพการกำจัดแบคทีเรียและเชื้อโรคต่างๆ และยังมั่นใจได้ว่าอนุภาคเงินที่บรรจุภายในขวดนั้นไม่มีอันตรายต่อ คน สัตว์ และสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังไม่มีแอลกอฮอล์ให้ระคายเคืองต่อผู้ที่แพ้แอลกอฮอล์และไม่มีแอลกอฮอล์มาทำลายพื้นผิวของสิ่งของต่างๆ อีกด้วย

#สเมล์คิลเลอร์ #นาโนซิลเวอร์สเปรย์ #ขจัดกลิ่นเหม็น #ไม่ต้องซัก
#สเมล์คิลเลอร์ #นาโนซิลเวอร์ #ไม่ต้องซัก #ซักตุ๊กตา #ซักรองเท้าผ้าใบ #หมวกกันน็อค #ตุ๊กตา
วิธีใช้: เพียงแค่เตรียมพื้นผิวที่ต้องการพ่นสเปรย์ให้สะอาด แล้วสเปรย์ให้ทั่วพื้นผิว โดยให้หัวสเปรย์อยู่ห่างจากพื้นผิวประมาณ 20 ซม. เพื่อให้ซิลเวอร์นาโนพ่นออกมาเป็นละอองฝอยและไปยึดเกาะกับแบคทีเรียต่างๆ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ หลังจากนั้นก็รอแห้งก็เป็นอันเรียบร้อย
#สเมล์คิลเลอร์ #นาโนซิลเวอร์ #ไม่ต้องซัก #ซักตุ๊กตา #ซักรองเท้าผ้าใบ #หมวกกันน็อค #ตุ๊กตา
ตัวอย่างการใช้งาน
#สเมล์คิลเลอร์ #นาโนซิลเวอร์ #ไม่ต้องซัก #ซักตุ๊กตา #ซักรองเท้าผ้าใบ #หมวกกันน็อค #ตุ๊กตา
1. ใช้กับสิ่งของซักยาก เช่น
#สเมล์คิลเลอร์ #นาโนซิลเวอร์ #ไม่ต้องซัก #ซักตุ๊กตา #ซักรองเท้าผ้าใบ #หมวกกันน็อค #ตุ๊กตา
  • หมวกกันน็อก อันนี้ซักยาก แห้งก็ยาก หรือหมวกกันน็อกของเหล่าพี่วิน พก #สเมล์คิลเลอร์  #นาโนซิลเวอร์สเปรย์ ติดตัวไว้เลย ก่อนจะใช้หมวกก็หยิบมาพ่นสักหน่อย สบายใจ ปราศจากกลิ่นและเชื้อโรคไปในคราวเดียว 
  • กางเกงยีนส์ หลายคนไม่ซักกางเกงยีนส์ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่การจะใส่ซ้ำไปเรื่อยๆ เป็นเดือนๆ คงไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ ยิ่งเมืองไทยเป็นเมืองร้อนสุดๆ แบบนี้ด้วยแล้ว ดังนั้นก็ควรจะพ่นสักหน่อยเพื่อฆ่าเชื้อโรคและกำจัดกลิ่นที่ติดอยู่ตามกางเกง
  • รองเท้าผ้าใบ ข้อนี้นี่สุดๆ ยิ่งรองเท้าผ้าใบหุ้มข้อด้วยแล้ว ถอดมาทีกลิ่นกระจาย แต่จะซักบ่อยๆ ก็ไม่ได้เพราะสีจะซีดหมด ดังนั้นง่ายสุด ไม่ต้องซัก เพียงแค่สเปรย์  #สเมล์คิลเลอร์  #นาโนซิลเวอร์สเปรย์ แล้วพึ่งแห้ง แค่นี้จบเลย กลิ่นเหม็นหมดเกลี้ยง เดือนนึงก็พ่นซ้ำหนนึง
  • ที่นอน โซฟา เก้าอี้ หมอน ตุ๊กตา ผ้าห่ม พรม คาร์ซีท อุปกรณ์กีฬา ของพวกนี้น้อยครั้งมากจริงๆ ที่เราจะได้ซัก แต่ก็แก้ปัญหานี้ได้ง่ายๆ ด้วยการพ่นสเปรย์  #สเมล์คิลเลอร์  #นาโนซิลเวอร์สเปรย์ ให้ทั่ว ผึ่งให้แห้ง ไม่ต้องเสียแรงยกออกมาตากแดด หรือ ซักแล้วต้องรอนุ่นที่อยู่ข้างในแห้ง
#สเมล์คิลเลอร์ #นาโนซิลเวอร์สเปรย์ #ทำความสะอาด #อุปกรณ์กีฬา #ไม่ต้องซัก 
#สเมล์คิลเลอร์ #นาโนซิลเวอร์ #ไม่ต้องซัก #ซักตุ๊กตา #ซักรองเท้าผ้าใบ #หมวกกันน็อค #ตุ๊กตา
 2. ใช้ทำความสิ่งที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น
#สเมล์คิลเลอร์ #นาโนซิลเวอร์ #ไม่ง้อแดด #ไม่ต้องซัก #รองเท้าผ้าใบ #หมวกกันน็อค #คาร์ซีท #ตุ๊กตา
  • โต๊ะทำงาน โต๊ะเครื่องแป้ง โทรศัพท์ คีย์บอร์ด มือถือ ของต่างๆ เหล่านี้นักวิทยาศาสตร์ได้มีการทดสอบแล้วว่ามีเชื้อโรคต่างๆ ที่เรามองไม่เห็นสะสมอยู่มากกว่าเชื้อโรคในห้องน้ำเสียอีก เพียงแต่เราคาดไม่ถึงเท่านั้นเอง ของใช้ต่างๆ พวกนี้ วิธีคือพ่นสเปรย์  #สเมล์คิลเลอร์  #นาโนซิลเวอร์สเปรย์ ให้ทั่ว ทิ้งไว้สักครู่ แล้วใช้ผ้าเช็ดให้แห้ง 
#สเมล์คิลเลอร์ #นาโนซิลเวอร์สเปรย์ #ทำความสะอาด
#สเมล์คิลเลอร์ #นาโนซิลเวอร์ #ไม่ง้อแดด #ไม่ต้องซัก #คีย์บอร์ด #หมวกกันน็อค #คาร์ซีท #ตุ๊กตา
3. ใช้กับสัตว์เลี้ยง เช่น #สเมล์คิลเลอร์ #นาโนซิลเวอร์ #ไม่ง้อแดด #ไม่ต้องซัก #รองเท้าผ้าใบ 
  • อุปกรณ์ของสัตว์เลี้ยง เช่น เบาะนอน ผ้าห่ม เสื้อ ผ้าพันคอ หรือแม้กระทั้งตุ๊กตาของเล่น ที่เมื่อนำไปซักแล้วกลิ่นตัวของสัตว์เลี้ยงก็ยังติดอยู่ สิ่งของเหล่านี้สามารถใช้  #สเมล์คิลเลอร์  #นาโนซิลเวอร์สเปรย์ พ่นได้เลย เพื่อขจัดแบคทีเรียและกลิ่นต่างๆ 
  • พ่นลงบนตัวสัตว์เลี้ยง เมื่อสัตว์เลี้ยงอยู่ในช่วงที่ไม่สะดวกจะอาบน้ำ สามารถใช้  #สเมล์คิลเลอร์  #นาโนซิลเวอร์สเปรย์ พ่นให้ทั่วตัว (หลีกเลี่ยงช่วงบริเวณใบหน้า) ทิ้งไว้สักครู่ แล้วใช้ผ้าเช็ดตัวให้ทั่ว จากนั้นจึงแปรงขนตามปกติ ก็จะทำให้กลิ่นตัวของสัตว์เลี้ยงรวมไปถึงอาการคันต่างๆ หมดไป
#กำจัดกลิ่นเหม็น #กำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ #กลิ่นเหม็น #กลิ่นเท้า #กลิ่นอับ #ฉี่รดที่นอน #ซักตุ๊กตา
#สเมล์คิลเลอร์ #นาโนซิลเวอร์สเปรย์ #ไม่ต้องซัก #อุปกรณ์สัตว์เลี้ยง
#กำจัดกลิ่นเหม็น #กำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ #กลิ่นเหม็น #กลิ่นเท้า #กลิ่นอับ #ฉี่รดที่นอน #ซักตุ๊กตา
สนใจสั่งซื้อ คลิก >>  econothai
บรรจุขวดละ 100 มล.
ขวดละ 350 บาท
#กำจัดกลิ่นเหม็น #กำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ #กลิ่นเหม็น #กลิ่นเท้า #กลิ่นอับ #ฉี่รดที่นอน #ซักตุ๊กตา

วันอังคารที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

นาโนซิลเวอร์ เทคโนโลยี (Nano Silver Tecnology)

วันนี้เรามาเล่าเรื่องเกี่ยวกับวิทยาศาตร์และเทคโนโลยีกันบ้างดีกว่า จะแนะนำให้รู้จักกับ นาโนซิลเวอร์ เทคโนโลยี (Nano Silver Tecnology) กันค่ะ แต่ก่อนที่เราจะไปรู้จักว่ามันคืออะไร เรามาเข้าใจความหมายของแต่ละตัวคือ นาโน และ ซิลเวอร์ กันก่อนเนอะ #ซิลเวอร์นาโนเทคโนโลยี #นาโนซิลเวอร์ #เทคโนโลยี #กำจัดกลิ่น #กำจัดเชื้อโรค #กำจัดเชื้อรา #ทำความสะอาด #กลิ่นเหม็น #ลดกลิ่น #ฆ่าเชื้อโรค #เชื้อโรค #อนุภาคเงิน

#ซิลเวอร์นาโน #เทคโนโลยี
#ซิลเวอร์นาโนเทคโนโลยี #นาโนซิลเวอร์ #เทคโนโลยี #กำจัดกลิ่น #กำจัดเชื้อโรค #กำจัดเชื้อรา #ทำความสะอาด #กลิ่นเหม็น #ลดกลิ่น #ฆ่าเชื้อโรค #เชื้อโรค #อนุภาคเงิน
นาโน หรือ เทคโนโลยีนาโน (Nanotechnology) ก็เป็นสิ่งที่ได้ยินกันมาพักใหญ่ อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ มันก็คือสิ่งที่มีขนาดเล็กมากกกกกก ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า ต้องใช้กล้องจุลทัศน์ขยายส่องดูถึงจะเห็นนะ

เทคโนโลยีนาโนนี้ก็มีการนำไปใช้ประโยนช์มากมาย เช่น ที่อังกฤษที่ใช้เทคโนโลยีนี้ในการสร้างอุโมงค์และถนนเพื่อลดมลภาวะในท้องถนน หรือการใช้กับคอนกรีตที่ทำให้อนุภาคคอนกรีตมีขนาดเล็กมากๆ ฝุ่นและแบคทีเรียไม่สามารถฝังตัวได้ทำให้อาคารคอนกรีตนี้ดูใหม่อยู่เสมอ

ซิลเวอร์ หรือ โลหะเงิน (Silver หรือ Ag) นอกเหนือไปจากเครื่องเงินที่คนไทยเรารู้จักกันดี ก็มีการนำไปใช้ทำเป็นเครื่องดนตรี เครื่องเป่า เหรียญกษาปณ์ อุปกรณ์การแพทย์ นอกจากนี้โลหะเงินยังมีคุณสมบัติในการ "ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และจุลินทรีย์" อีกด้วย

ทีนี้เรามารู้จักกับหัวข้อวันนี้กันบ้าง "นาโนซิลเวอร์เทคโนโลยี" (Nano - Silver) เป็นการใช้เทคโนโลยีนาโนอย่างที่เล่าไปข้างต้นมาแยกโลหะเงิน (Silver Ag) ให้มีอนุภาคเงินที่เล็กมากๆ เพื่อเพิ่มพื้นที่ผิวสัมผัสกับเชื้อโรค ทำให้มีคุณสมบัติขจัดเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กลไกการยับยั้งแบคทีเรียของซิลเวอร์นาโนก็คือ อนุภาคเงินที่มีขนาดเล็กมากๆ เหล่านี้ จะไปเกาะกับผนังเซลล์ของแบคทีเรีย เชื้อรา ไวรัส และค่อยๆ แพร่ผ่านเข้าไปในผนังเซลล์ จากนั้นโมเลกุลของอนุภาคเงินก็จะทำปฏิกิริยากับโมเลกุลของแบคทีเรียซึ่งจะทำให้กระบวนการเติบโตของแบคทีเรียหยุดชะงักไม่สามารถเติบโตและตายไปในที่สุด ทั้งนี้ก็มีการวิจัยกันแล้วว่าอนุภาคของซิลเวอร์นาโนสามารถต้านเชื้อแบคทีเรียต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตประจำวันของมนุษย์ได้มากถึง 650 ชนิด เช่น แบคทีเรียสเตร็ปโตค็อกคัส (Streptococcus), แบคทีเรียสแตฟฟิโลค็อกคัส (Staphylococcus) หรือ อีโคไล (Escherichia coli)  #ซิลเวอร์นาโนเทคโนโลยี #นาโนซิลเวอร์ #เทคโนโลยี #กำจัดกลิ่น #กำจัดเชื้อโรค #กำจัดเชื้อรา #ทำความสะอาด #กลิ่นเหม็น #ลดกลิ่น #ฆ่าเชื้อโรค #เชื้อโรค #อนุภาคเงิน
ประโยชน์ของซิลเวอร์นาโน

1. ใช้ตามโรงพยาบาลหรือโรงพยาบาลสัตว์ต่างๆ พ่นกำจัดเชื้อโรคภายในโรงพยาบาล เคลือบอุปกรณ์ทางการแพทย์ ผ้าปิดแผล หรือวัสดุต่างๆ หรือเพิ่มประสิทธิภาพของยาปฏิชีวนะ
2. ใช้ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดต่างๆ เช่นผงซักฟอก น้ำยาล้างมือ สบู่
3. ใช้ในเครื่องมือเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น เครื่องกรองน้ำ เครื่องสำอางค์ เครื่องปรับอากาศ
4. ใช้ในงานสีต่างๆ เช่นสีทาบ้าน เพื่อป้องกันเชื้อราไม่ให้ทำลายสีทีทาไว้

โอ้ย....ซิลเวอร์นาโนเทคโนโลยีนี่ข้อดี 108 จนอธิบายครั้งนี้คงไม่หมด ไว้จะมาต่อภาค 2 เมื่อเอา "ซิลเวอร์นาโนเทคโนโลยีกับการใช้ในชีวิตประจำวัน" กันนะคะ
#ซิลเวอร์นาโนเทคโนโลยี #นาโนซิลเวอร์ #เทคโนโลยี #กำจัดกลิ่น #กำจัดเชื้อโรค #กำจัดเชื้อรา #ทำความสะอาด #กลิ่นเหม็น #ลดกลิ่น #ฆ่าเชื้อโรค #เชื้อโรค #อนุภาคเงิน
อ่านเพิ่มเติมเรื่อง เทคโนโลยีนาโนซิลเวอร์ แบบเข้าใจง่ายๆ ได้ที่นี่ค่ะ